นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ภายใต้ภาวะเงินเฟ้อระหว่างประเทศที่สูง การดำเนินงานด้านราคาของจีนโดยรวมยังคงมีเสถียรภาพ สำนักงานสถิติแห่งชาติ (National Bureau of Statistics) เผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันที่ 9 มกราคมว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน การวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี ราคาสินค้าของจีนอาจยังคงปรับตัวสูงขึ้นในระดับปานกลาง และมีพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับการสร้างความมั่นใจในอุปทานและการรักษาเสถียรภาพราคา

ในช่วงครึ่งปีแรกราคาโดยทั่วไปมีเสถียรภาพอยู่ในช่วงที่เหมาะสม

สถิติแสดงให้เห็นว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) รายเดือนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนในช่วงครึ่งปีแรกนั้นต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 3% โดยในจำนวนนี้ อัตราการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนมิถุนายนถือเป็นอัตราที่สูงที่สุดในช่วงครึ่งปีแรก โดยอยู่ที่ 2.5% ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากฐานที่ต่ำลงของปีก่อน แม้ว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของดัชนีจะสูงกว่าเดือนพฤษภาคม 0.4 จุดเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สมเหตุสมผล

“ช่องว่างระหว่างดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) แห่งชาติ (National Producer Price Index: PPI) แคบลงอีก ในปี 2564 “ช่องว่างระหว่างดัชนี” ทั้งสองอยู่ที่ 7.2 จุดเปอร์เซ็นต์ ซึ่งลดลงเหลือ 6 จุดเปอร์เซ็นต์ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

การประชุมของกรมการเมืองคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา มุ่งเน้นไปที่จุดเชื่อมโยงสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของราคา โดยกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า “ต้องทำหน้าที่ให้ดีในการรับรองอุปทานและเสถียรภาพของราคาพลังงานและทรัพยากร ทำหน้าที่ให้ดีในการเตรียมการไถนาในฤดูใบไม้ผลิ” และ “จัดระเบียบการจัดหาสินค้าเพื่อการยังชีพที่สำคัญ”

รัฐบาลกลางจัดสรรงบประมาณ 3 หมื่นล้านหยวนเพื่ออุดหนุนเกษตรกรที่ปลูกธัญพืช และลงทุนสำรองโพแทชแห่งชาติ 1 ล้านตัน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 จะมีการบังคับใช้อัตราภาษีนำเข้าชั่วคราวเป็นศูนย์สำหรับถ่านหินทั้งหมด เร่งรัดการปลดปล่อยกำลังการผลิตถ่านหินคุณภาพสูง และปรับปรุงกลไกราคาซื้อขายถ่านหินในระยะกลางและระยะยาว อุตสาหกรรมเหล็กกล้าของจีนกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์ระหว่างประเทศก็คลี่คลายลง มีมิตรประเทศมาปรึกษาหารือกันมากขึ้น อุตสาหกรรมเหล็กกล้าจะประสบผลสำเร็จในเดือนกรกฎาคม สิงหาคม และกันยายน